Keloid Injection
เริ่มต้นจุดละ 500 บาท (ประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น)
คีลอยด์ (Keloid) หรือแผลเป็นนูน คือภาวะที่มีเนื้อเยื่อพังผืดเกิดนูนขึ้นมาบนแผลของผิวหนังที่หายสนิทแล้ว เนื้อพังผืดนี้นอกจากจะนูนขึ้นแล้วยังเติบโตลามออกไปพ้นขอบแผลดั้งเดิมของผิวหนังอีกด้วย ถ้าผ่าตัดเอาออกก็จะโตขึ้นมาอีกเหมือนเดิม หรือมากกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นกรณีคล้ายๆ กันคือแผลที่หายแล้วเกิดเนื้อเยื่อพังผืดแดงนูน และคัน แต่ไม่ออกไปนอกขอบแผลดั้งเดิมเรียกว่า hypertrophic scar แบบหลังนี้มักเป็นกับแผลที่ถูกความร้อนลวก หรือนาบทั้งคีลอยด์ และ hypertrophic scar ต่างก็มีกลไกการเกิดคล้ายกันคือการสร้าง และการสลายพังผืด (collagen fiber) ขณะแผลหายไม่ได้ดุลพอดีกันเมื่อสร้างพังผืดขึ้นมาสมานแผลมาก แต่กลไกการลบทำลายพังผืดส่วนเกินไม่มากพอจึงเกิดเป็นคีลอยด์
ปัจจัยที่เป็นสาเหตุให้เกิดแผลเป็นนูนที่พบบ่อยๆได้แก่
- แผลจากการเป็นสิว
- แผลจากการเจาะหู
- แผลปลูกฝีฉีดวัคซีน
- แผลผ่าตัดต่างๆ
- แผลผ่าคลอด
- แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก
- แผลถูกของมีคมบาด
- แผลจากอุบัติเหตุ
- แผลจากรอยสัก
วิธีการรักษาคีลอยด์ (Keloid) หรือแผลเป็นนูนมีหลายวิธีดังนี้
- การใช้ยาทาแก้แผลเป็น เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ ยาที่มีวิตามิน E หรือ A เป็นส่วนประกอบ กรณีที่แผลเป็นนูนเป็นเพียงเล็กน้อย และไม่นานนัก
- การใช้แผ่นซิลิโคนเจลปิดบริเวณแผลเป็นสำหรับแผลเป็นที่เป็นใหม่ๆ เพื่อช่วยลดการขยายตัวของแผล
- การฉีดยาสเตียรอยด์ที่บริเวณแผลเป็นเพื่อให้แผลเป็นยุบลงแต่ต้องฉีดหลายครั้งจนกว่าแผลจะยุบและเรียบ
- การผ่าตัดเพื่อเอาแผลเก่าออกแล้วเย็บแผลใหม่อีกครั้งซึ่งอาจใช้ได้กับแผลเป็นบางชนิดเท่านั้น และควรทำกับแผลเป็นที่สมบูรณ์เต็มที่แล้วไม่ใช่แผลเป็นใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น
กลามอร์คลินิกใช้วิธีการรักษาด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์ที่บริเวณแผลเป็น เพื่อให้แผลเป็นยุบลง และใช้ยาทาแก้แผลเป็น เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ ยาที่มีวิตามิน E หรือ A เป็นส่วนประกอบควบคู่กันไปวิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีที่เห็นผลเร็ว และให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในตอนนี้ที่สำคัญค่าใช้จ่ายในการรักษาไม่แพง
การป้องกันคีลอยด์ (Keloid) หรือแผลเป็นนูน
การป้องกันไม่ให้เกิดเป็นสิ่งที่ดีที่สุดนั่นคือเวลามีสิว หรือเป็นอีสุกอีใสอย่าแกะ เวลาจะฉีดยาหรือวัคซีนต้องฉีดในที่ๆ จะถูกปกปิดด้วยเสื้อผ้ามิดชิดเวลาจะผ่าตัดต้องเลือกวิธีที่มีแผลเล็กแผลผ่าตัดไม่ควรตัดผ่านร่องตามธรรมชาติของผิวหนัง (skin crease) ไม่ตัดผ่านข้อพับ และหลีกเลี่ยงแผลที่กลางหน้าอกซึ่งเกิดคีลอยด์ง่าย เวลาเย็บปิดแผลต้องไม่ให้สองข้างขอบแผลตึงเกินไป